Messenger

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล



   โรงพยาบาลธนบุรี ทวีวัฒนา ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นไปตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยนโยบายได้อธิบายถึงวิธีการที่โรงพยาบาลปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เช่น การเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การเปิดเผย รวมถึงสิทธิต่างๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และฐานะผู้ใช้บริการ ของโรงพยาบาล มีสิทธิได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ดังต่อไปนี้



   ผู้ใช้บริการ หมายความว่า ผู้ป่วย บุคลากรโรงพยาบาล และบุคคลทั่วไป ซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคล และให้หมายความรวมถึงผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ ผู้อนุบาลที่มีอำนาจกระทำการแทนคนไร้ความสามารถ หรือผู้พิทักษ์ที่มีอำนาจกระทำการแทนคนเสมือนไร้ความสามารถ
   ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล ทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
   อนึ่งนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อกำหนดและเงื่อนไขสำหรับการให้บริการเว็บไซต์ และแอพพลิเคชั่นของเราด้วย โดยในการรับบริการดังกล่าว ในแต่ละครั้งให้ถือว่าท่านได้อ่านและตกลงยอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้



 โรงพยาบาลจะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยมีวัตถุประสงค์ ขอบเขต และใช้วิธีการ ที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม โดยในการเก็บรวบรวมข้อมูลนั้นจะทำเท่าที่จำเป็นต่อการดำเนินงานภายใต้วัตถุประสงค์ของโรงพยาบาลเท่านั้น ทั้งนี้ โรงพยาบาลจะดำเนินการให้เจ้าของข้อมูลรับรู้ โดยจะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลโดยชัดแจ้งก่อนทำการเก็บรวบรวม
 โรงพยาบาลเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่สามารถระบุตัวตนได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม เพื่อประโยชน์ต่อท่านในระยะเวลาที่เหมาะสมจำเป็นต่อการให้บริการ ในกรณีที่ท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลกับโรงพยาบาล หรือร้องขอการบริการจากโรงพยาบาล ผ่านช่องทางเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่นหรือ ช่องทางอื่นใดของโรงพยาบาล อาทิเช่น การนัดหมายแพทย์ การทำธุรกรรมแบบออนไลน์ การสมัครรับจดหมายข่าว การขอรับความช่วยเหลือพิเศษ รวมไปถึงการทำธุรกรรมแบบออฟไลน์ เช่น การลงทะเบียนผู้ป่วยที่เคาน์เตอร์ลงทะเบียน ของโรงพยาบาล หรือจากความสมัครใจของท่านในการทำแบบสอบถาม (Survey) หรือการโต้ตอบทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) หรือการกรอก/ ให้ข้อมูลประกอบการสมัครงาน หรือช่องทางการสื่อสารระหว่างโรงพยาบาล และผู้รับบริการ นอกจากนั้นโรงพยาบาลอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลที่สาม เช่น ธุรกิจในเครือข่าย ตัวแทนจำหน่าย หรือผู้ให้บริการของโรงพยาบาล หน่วยงานภาครัฐ ในกรณีที่ท่าน ได้ให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวไว้ หรือเป็นการเปิดเผยตามที่กฎหมายกำหนด



 ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาลเก็บรวบรวมจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการเก็บ รวบรวม ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาลเก็บรวบรวมโดยตรงจากผู้รับบริการ หรือจากบุคคลที่สาม ดังต่อไปนี้
   ๓.๑ ข้อมูลระบุตัวตน เช่น ชื่อ นามสกุล ภาพถ่าย เพศ วันเดือนปีเกิด หนังสือเดินทางหมายเลขบัตรประชาชน หรือหมายเลขที่สามารถระบุตัวตนอื่นๆ
   ๓.๒ ข้อมูลสำหรับการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และ email
   ๓.๓ ข้อมูลการเข้ารับบริการ เช่น ข้อมูลการนัดหมายแพทย์ ข้อมูลส่วนบุคคลของญาติ ความต้องการเกี่ยวกับห้องพัก และบริการเสริมอื่นๆ
   ๓.๔ ข้อมูลการสมัครรับข่าวสารและเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด เช่น ลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมสัมมนา, ลงทะเบียนรับโปรโมชั่น
   ๓.๕ ข้อมูลสถิติ เช่น จำนวนผู้ป่วย และการเข้าชมเว็บไซต์
   ๓.๖ ข้อมูลจากการเข้าใช้เว็บไซต์ของโรงพยาบาล เช่น IP Address, Cookies, นัดหมายแพทย์ออนไลน์
   ๓.๗ ข้อมูลด้านสุขภาพ รายงานที่เกี่ยวกับสุขภาพกาย และสุขภาพจิต การดูแลสุขภาพของท่าน ผลการทดสอบจากห้องทดลอง และการวินิจฉัย
   ๓.๘ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาและการแพ้ยาของท่าน
   ๓.๙ ข้อมูลเกี่ยวกับความเห็นหรือข้อเสนอแนะ และผลการรักษาที่ท่านให้ไว้



 โรงพยาบาลทำการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล เพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานของโรงพยาบาล เช่น การรักษาพยาบาล การทำธุรกรรมทางการเงิน การจัดซื้อ จัดจ้าง การทำสัญญา การดำเนินกิจกรรมโรงพยาบาล การติดต่อประสานงานต่างๆ หรือเพื่อปรับปรุงคุณภาพการทำงานให้มีประสิทธิภาพ เช่น การจัดทำฐานข้อมูล วิเคราะห์และพัฒนากระบวนการดำเนินงานของโรงพยาบาล และเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดที่ไม่ต้องห้ามด้วยกฎหมาย และ/หรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อการดำเนินงานของโรงพยาบาล โดยจะจัดเก็บและใช้ข้อมูลดังกล่าวตามระยะเวลา เท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลหรือตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น
 โรงพยาบาลจะไม่กระทำการใดๆ แตกต่างจากที่ระบุในวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูล เว้นแต่
  (๑) ได้แจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ให้แก่เจ้าของข้อมูลทราบ และได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล
  (๒) เป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒
   ๔.๑ วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการให้บริการทางการแพทย์ ได้แก่
    - จัดหาบริการ หรือส่งมอบบริการของโรงพยาบาล และการเข้าถึงบริการของผู้รับบริการไม่ว่าทางออนไลน์หรือ ออฟไลน์
    - นัดหมายแพทย์ ส่งข่าวสาร แนะนำบริการของโรงพยาบาล
    - การประสานงานและส่งต่อข้อมูลให้กับโรงพยาบาลในเครือข่าย และสถานพยาบาลอื่นซึ่งจะช่วยให้การส่งต่อผู้ป่วย มีความรวดเร็วขึ้น
    - การยืนยันตัวตนของผู้ป่วย
    - ส่งข้อความแจ้งเตือนการนัดหมายแพทย์ หรือการเสนอความช่วยเหลือจากโรงพยาบาล
    - วัตถุประสงค์ทางบัญชีหรือทางการเงิน เช่น การตรวจสอบการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต การเรียกเก็บเงินและการตรวจสอบความถูกต้อง การขอคืนเงิน
    - รักษาความปลอดภัย รวมถึงความปลอดภัยขณะพักรักษาอยู่ในโรงพยาบาล
    - ปฏิบัติตามกฎของโรงพยาบาล
    - ปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อกำหนด ระเบียบ ข้อบังคับ หรือการร้องขอใดๆ จากหน่วยงานภาครัฐ เช่น การปฏิบัติตามหมายเรียกพยาน หรือคำสั่งศาล หรือการร้องขออื่นๆ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย
    - วัตถุประสงค์อื่นๆ ที่สนับสนุนการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ข้างต้น หรือที่ได้รับความยินยอมจากผู้รับบริการเป็นครั้งคราว
   ๔.๒ วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดของโรงพยาบาล ซึ่งทางโรงพยาบาลจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เหล่านี้ภายหลังจากที่ได้รับความยินยอมจากท่านแล้วเท่านั้น ได้แก่
    - อำนวยความสะดวกและนำเสนอรายการสิทธิประโยชน์ต่างๆ แก่สมาชิกโปรแกรมชีววัฒนะของโรงพยาบาล
    - วัตถุประสงค์ด้านการตลาด การส่งเสริมการขาย และการลูกค้าสัมพันธ์ เช่น การส่งข้อมูลเกี่ยวกับโปรโมชั่น ผลิตภัณฑ์และบริการ รายการส่งเสริมการขาย และธุรกิจพันธมิตร
    - สำรวจความพึงพอใจของลูกค้า วิจัยตลาด และวิเคราะห์ทางสถิติ เพื่อเป็นข้อมูล ในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการ หรือสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ เพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสาร ตอบคำถาม หรือตอบสนองข้อร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับการใช้ บริการของโรงพยาบาล เช่น ปัญหาการใช้บริการ การเรียกร้องสัมภาระหรือ ความสูญหายใด



    โรงพยาบาลอาจเปิดเผยหรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลที่สาม ซึ่งอาจตั้งอยู่ภายในหรือนอกประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอ และเป็นไปตามหลักเกณฑ์การให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนด และโรงพยาบาลจะดำเนินตามมาตรการที่จำเป็นและเหมาะสม หรือเป็นไปตามข้อบังคับและกฎหมาย เพื่อวัตถุประสงค์ที่ตามระบุไว้ข้างต้น ให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้
   ๕.๑ โรงพยาบาลในเครือข่าย บริษัทในเครือข่าย ธุรกิจคู่ค้า และธุรกิจพันธมิตร
   ๕.๒ ตัวแทน ผู้ให้บริการ หรือคู่ค้าที่ให้บริการแก่โรงพยาบาล หรือดำเนินการใดๆ ในฐานะตัวแทนของโรงพยาบาล เช่น ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
   ๕.๓ หุ้นส่วนทางธุรกิจ เช่น บริษัทประกัน พันธมิตรที่เข้าร่วมรายการโปรแกรมสะสมคะแนน และ สิทธิประโยชน์ และบริษัทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการให้บริการแก่ท่าน หรือตอบสนองตามวัตถุประสงค์ข้างต้น
   ๕.๔ ธนาคาร และผู้ให้บริการชำระเงิน เช่น บริษัทบัตรเครดิต หรือเดบิต
   ๕.๕ เจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานรักษาความมั่นคงและความปลอดภัย
   ๕.๖ หน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานศุลกากร
   ๕.๗ หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานอื่นๆ ตามที่กฎหมายอนุญาต หรือกำหนดไว้


   ๖.๑ โรงพยาบาลจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้สำหรับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภทจะแตกต่างกันไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ
   ๖.๒ โรงพยาบาลจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามระยะเวลาโดยคำนึงถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และโดยคำนึงถึงแนวปฏิบัติสำหรับแต่ละประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งหลังจากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว โรงพยาบาลจะดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้นตามกระบวนการและภายในกำหนดระยะเวลาที่กำหนดไว้ตามนโยบายของโรงพยาบาล



   ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้ ทั้งนี้ หากท่านประสงค์ที่จะขอใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถติดต่อโรงพยาบาล/เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของโรงพยาบาล ตามรายละเอียดการติดต่อในข้อ ๘. เพื่อยื่นคำร้องใช้สิทธิของท่านดังต่อไปนี้
   ๗.๑ ท่านมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลของท่านที่โรงพยาบาลเก็บรักษาไว้ รวมถึงขอรับสำเนาข้อมูล และขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับโรงพยาบาลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่นหรือตัวท่านเอง
   ๗.๒ ท่านมีสิทธิคัดค้าน หรือระงับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านได้
   ๗.๓ ท่านมีสิทธิขอให้แก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ได้ และอาจขอให้ ลบ หรือทำลาย หรือเปิดเผยแหล่งที่มาของข้อมูลของท่านในกรณีที่ไม่ได้ให้ความยินยอมได้
   ๗.๔ ในกรณีที่ท่านพบว่าโรงพยาบาลใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน ไม่เป็นไปตามที่ท่านได้ให้ ความยินยอมไว้หรือไม่เป็นตามกฎหมาย ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้
   ๗.๕ ท่านมีสิทธิเพิกถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่ท่านได้ให้ความยินยอมได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับโรงพยาบาล เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมโดยกฎหมายหรือโดยสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน อย่างไรก็ตาม การที่ท่านได้เพิกถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลใด อาจส่งผลให้โรงพยาบาลมีข้อมูลไม่เพียงพอต่อการให้บริการตามความประสงค์ของท่านได้ และ ท่านอาจขาดความสะดวก ในการได้รับบริการจากโรงพยาบาล
   เจ้าของข้อมูลสามารถขอใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้น โดยยื่นคำร้องขอใช้สิทธิต่อโรงพยาบาลเป็น ลายลักษณ์อักษร โดยโรงพยาบาลจะแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องฯ ของเจ้าของข้อมูลภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องฯ ดังกล่าว ทั้งนี้โรงพยาบาลอาจปฏิเสธสิทธิของเจ้าของข้อมูลได้ในกรณีที่มีกฎหมายกำหนดไว้



   โรงพยาบาลจะใช้มาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไป ตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจำกัดการเข้าถึงข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านจากพนักงาน ลูกจ้าง และตัวแทนของโรงพยาบาลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เพื่อป้องกัน การสูญหาย การเข้าถึง การใช้ การแก้ไข การเปลี่ยนแปลงหรือการเปิดเผยโดยไม่มีสิทธิ หรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย



   โรงพยาบาลอาจทำการปรับปรุงหรือแก้ไขนโยบายนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดตามนโยบาย การเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานของโรงพยาบาล รวมถึงข้อเสนอแนะ และความคิดเห็นจากหน่วยงานต่างๆ โดยโรงพยาบาลจะประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงให้ทราบอย่างชัดเจน ด้วยช่องทางที่เหมาะสม



   หากท่านมีคำถามใด ๆ เกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ หรือต้องการใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของโรงพยาบาลได้ ตามช่องทางดังต่อไปนี้

    E-mail : dpo@thonburitht.com

    โทรศัพท์ : 02-4872100

    โทรสาร : 02-4483869

   หรือส่งไปรษณีย์มาที่

   43/4 โรงพยาบาลธนบุรี ทวีวัฒนา (เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล) ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ ชั้น 1 อาคาร 1 ถนนบรมราชชนนี แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ 10170

ประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวในการใช้กล้องวงจรปิด (CCTV Privacy Notice)
บริษัท โรงพยาบาลรามคําแหง จํากัด (มหาชน)

1. วัตถุประสงค์
เราดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้ 1.1 เพื่อการปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยส่วนตัวของท่าน ซึ่งรวมไปถึงทรัพย์สินของท่าน
1.2 เพื่อการปกป้องอาคาร สิ่งอำนวยความสะดวกและทรัพย์สินของเราจากความเสียหาย การขัดขวาง การทำลายซึ่งทรัพย์สินหรืออาชญากรรมอื่น
1.3 เพื่อสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อการยับยั้ง ป้องกัน สืบค้น และ ดำเนินคดีทางกฎหมาย
1.4 เพื่อการให้ความช่วยเหลือในกระบวนการระงับข้อพิพาทซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างที่มีกระบวนการทางวินัยหรือกระบวนการร้องทุกข์
1.5 เพื่อการให้ความช่วยเหลือในกระบวนการสอบสวน หรือ กระบวนการเกี่ยวกับการส่งเรื่องร้องเรียน
1.6 เพื่อการให้ความช่วยเหลือในกระบวนการริเริ่มหรือป้องกันการฟ้องร้องทางแพ่ง
ซึ่งรวมไปถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการดำเนินการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงาน

2. นโยบาย
ประกาศความเป็นส่วนตัวในการใช้กล้องวงจรปิด (“ประกาศ”)ฉบับนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผย ซึ่งข้อมูลที่สามารถทำให้สามารถระบุตัวท่านฐานกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เราดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานกฎหมายดังต่อไปนี้
2.1 ความจำเป็นในการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น
2.2 ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราหรือบุคคลอื่นโดยประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
2.3 ความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งควบคุมดูแลเกี่ยวกับความปลอดภัยของสภาพแวดล้อมในสถานที่ทำงาน และทรัพย์สินของโรงพยาบาล

3. ขอบเขต
โรงพยาบาลดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลผ่านการใช้งานอุปกรณ์กล้องวงจรปิด ภายในและรอบบริเวณโรงพยาบาลธนบุรีทวีวัฒนา

4. คำจำกัดความ
4.1 “แผนกรักษาความปลอดภัย” หรือ “เรา” คือ แผนกรักษาความปลอดภัย ฝ่ายสนับสนุนงานบริการ โรงพยาบาล
4.2 “พื้นที่” คือ พื้นที่ภายในและรอบบริเวณโรงพยาบาล
4.3 “ท่าน” คือ เจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงาน ลูกค้า ลูกจ้าง ผู้รับเหมา ผู้มาติดต่อ หรือ บุคคลใดๆ ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกรวมกันว่า ที่เข้ามายังพื้นที่ โดยผ่านการใช้งานอุปกรณ์กล้องวงจรปิด
4.4 “ข้อมูลส่วนบุคคล” คือ ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผย ซึ่งข้อมูลที่สามารถทำให้สามารถระบุตัวท่านได้

5. ผู้รับผิดชอบ
แผนกรักษาความปลอดภัย ฝ่ายสนับสนุนงานบริการ และแผนกคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาล

6. ขั้นตอนการปฏิบัติ
6.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมและใช้
ตามที่ได้แจ้งในวัตถุประสงค์เราทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดในตำแหน่งที่มองเห็นได้ โดยจะจัดวาง ป้ายเตือนว่ามีการใช้งานกล้องวงจรปิด ณ ทางเข้าและทางออก รวมถึงพื้นที่ที่เราเห็นสมควรว่าเป็นจุดที่ต้องมีการเฝ้าระวัง เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อท่านเข้ามายังพื้นที่ ดังต่อไปนี้
1) ภาพนิ่ง
2) ภาพเคลื่อนไหว
3) เสียง
4) ภาพทรัพย์สินของท่าน เช่น พาหนะ กระเป๋า หมวก เครื่องแต่งกาย เป็นต้น
ทั้งนี้ เราจะไม่ทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่ที่อาจล่วงละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของท่านจนเกินสมควร ได้แก่ ห้องพัก ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ หรือสถานที่เพื่อใช้ในการพักผ่อนของผู้ปฏิบัติงาน
6.2 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
เราจะเก็บรักษาข้อมูลในกล้องวงจรปิดที่เกี่ยวกับท่านไว้เป็นความลับ และจะไม่ทำการเปิดเผย เว้นแต่ กรณีที่เรามีความจำเป็นเพื่อให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในการเฝ้าระวังสังเกตการณ์ตามที่ได้ระบุในประกาศฉบับนี้ เราอาจเปิดเผยข้อมูลในกล้องวงจรปิดแก่ประเภทของบุคคลหรือนิติบุคคล ดังต่อไปนี้
1) หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อช่วยเหลือ สนับสนุนในการบังคับใช้กฎหมาย หรือเพื่อการดำเนินการสืบสวน สอบสวน หรือการดำเนินคดีความต่างๆ
2) ผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอก เพื่อความจำเป็นในการสร้างความมั่นใจในเรื่องการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย สุขภาพ รวมทั้งทรัพย์สินของท่านหรือบุคคลอื่น
6.3 สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562ของท่าน พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความควบคุมของท่านได้มากขึ้น โดยท่านสามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เมื่อบทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1) สิทธิในการเข้าถึง รับสำเนาและขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราเก็บรวบรวมอยู่ เว้นแต่กรณีที่เรามีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล
2) หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
3) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน เพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
4) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีหนึ่งกรณีใดดังต่อไปนี้
(1) เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่เราทำการตรวจสอบตามคำร้องขอของท่านให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน
(2) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
(3) เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ เราได้แจ้งไว้ใน การเก็บรวบรวม แต่ท่านประสงค์ให้เราเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไป เพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมายของท่าน
(4) เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่เรากำลังพิสูจน์ให้ท่านเห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องมาจากการที่ท่านได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
5) สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่กรณีที่เราเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่นเราสามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะตามภารกิจของเรา)
6.4 ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของการเฝ้าระวังสังเกตโดยการใช้อุปกรณ์กล้องวงจรปิดตามที่ประกาศนี้กำหนด เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลในกล้องวงจรปิดที่เกี่ยวข้องกับท่าน เป็นระยะเวลา 1 เดือน นับจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ทำการตรวจสอบย้อนหลังเรียบร้อยแล้ว หรือตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายฉบับนี้ ซึ่งอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นหากมีกฎหมายกำหนดไว้ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวเราจะทำการ ลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป
6.5 การรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล
เรามีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม ทั้งในเชิงเทคนิคและการบริหารจัดการ เพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย หรือมีการเข้าถึง ลบ ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและแนวปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (Information Security Policy) ของเรา นอกจากนี้ เราได้กำหนดให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลขึ้นโดยประกาศให้ทราบกันโดยทั่วทั้งองค์กร พร้อมแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยธำรงไว้ซึ่งความเป็นความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (Availability) ของข้อมูลส่วนบุคคล โดยเราได้จัดให้มีการทบทวนนโยบายดังกล่าวรวมถึงประกาศนี้ในระยะเวลาตามที่เหมาะสม
6.6 ความรับผิดชอบของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
เราได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่เฉพาะผู้ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกิจกรรมการประมวลผลนี้เท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยเราจะดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามประกาศนี้อย่างเคร่งครัด
6.7 การเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
ในการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงประกาศนี้เราอาจพิจารณาแก้ไขเปลี่ยนแปลงตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทางQR Codeซึ่งติดไว้บริเวณทางเข้าโรงพยาบาล ป้อม รปภ. และโต๊ะประชาสัมพันธ์ โดยมีวันที่ของประกาศฉบับล่าสุดกำกับอยู่ตอนท้ายอย่างไรก็ดี เราขอแนะนำให้ท่านโปรดตรวจสอบเพื่อรับทราบประกาศฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะเข้ามาในพื้นที่ของเราการเข้ามาในพื้นที่ของท่าน ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในประกาศนี้ ทั้งนี้ โปรดระงับการเข้าพื้นที่ หากท่านไม่เห็นด้วยกับข้อตกลง ในประกาศฉบับนี้ หากท่านยังคงเข้ามาในพื้นที่ต่อไปภายหลังจากที่ประกาศนี้มีการแก้ไขและนำขึ้นประกาศในช่องทางข้างต้นแล้ว จะถือว่าท่านได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว
6.8 การติดต่อสอบถาม
ท่านสามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับประกาศฉบับนี้ได้ที่
1) โรงพยาบาลธนบุรีทวีวัฒนา เลขที่ 436 ถนนธนบุรีทวีวัฒนาแขวงหัวหมากเขตบางกะปิกรุงเทพ 10240
โทรศัพท์ 0-2743-9999 กด 0

7.การเฝ้าติดตามและการวัดผลกระบวนการ
ไม่มี

8.เอกสารอ้างอิง
8.1 พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

ตัวอย่าง ป้ายแจ้ง CCTV Notice สำหรับติด ณ บริเวณที่ติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อแจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าสู่พื้นที่